การเก็บรักษายาเส้นไปป์ไว้ในขวดโหลแก้ว และการเก็บยาไว้นานๆ จะอร่อยขึ้นจริงหรือ?

หลังจากที่มีอุปกรณ์ครบทั้งไปป์ อุปกรณ์ในการสูบทั้งตัวกด ตัวขูด ตัวเขี่ย และลวดล้างทำความสะอาดแล้ว สิ่งต่อไปก็คือเรื่องของตัวยานี่แหละ คำถามที่คนส่วนใหญ่ข้องใจและอยากรู้ ก็คือขั้นตอนการเก็บรักษาใบยา ถ้าเปิดแล้วจะเก็บไว้ที่ไหนต่อ เก็บไว้ในซองในกระป๋องต่อได้มั้ย หรือต้องหาถุงซิปล็อคมาใส่ ไม่ก็เทใส่ขวดโหลแก้วเหมือนที่เห็นคนอื่นเขาทำกัน ซึ่งต่อไปนี้เราจะมาอธิบายถึงเหตุผล และช่วยตอบคำถามข้อข้องใจตรงจุดนี้กัน

ยาเส้นไปป์ถ้าเปิดใช้แล้วจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหนดี?

ทุกครั้งเวลาที่เราซื้อยาเส้นมาจากร้าน เมื่อทำการเปิดซอง หรือเปิดกระป๋องออกมาแล้ว นั่นหมายความว่ายาได้สัมผัสถูกอากาศแล้ว ที่เรื่องนี้ก็ไม่นับว่าเป็นปัญหาสำหรับคนที่สูบยาไปป์ตัวใดตัวหนึ่งเป็นประจำ หรือสูบบ่อยเท่าไหร่นัก เนื่องจากสูบแปบเดียวก็หมด ยายังไม่ทันแห้งก็ต้องแกะซองใหม่แล้ว แต่ถ้าหากเป็นคนที่ชอบลองยาหลายๆ ประเภท มีตัวที่ชอบหลายๆตัว และมักจะสลับสูบไปมาตามอารมณ์ แบบนี้ใบยาก็มีสิทธิ์แห้งไปก่อนแบบไม่รู้ตัว ถ้าคุณเป็นคนชอบสูบไปป์สไตล์นี้ ก็ต้องพิถีพิถันกับการเก็บรักษาใบยาให้มากขึ้นอีกนิด โดยวิธีเก็บยาเส้นที่คนส่วนใหญ่นิยมก็คือ

1. เก็บยาเส้นไปป์ไว้ในซองหรือกระป๋องตามเดิม เนื่องจากไม่ซีเรียสมาก สูบตัวนี้ประจำ ต้องเปิดหยิบยาบ่อยๆ อยู่แล้ว และไม่นานก็หมด ดังนั้นไม่จำเป็นต้องหาที่เก็บให้วุ่นวาย เอาที่ง่าย และสะดวกที่สุด
2. เก็บยาเส้นไว้ในถุงซิปล็อค เป็นอุปกรณ์เก็บที่หาง่าย น้ำหนักเบา พกพาได้ และราคาถูกที่สุด ซึ่งสามารถรักษาความชื้นได้ดี ในกรณีที่มองว่าซองใส่ยาเส้นไปป์ที่มีมันยังไม่ดีพอ และเราก็ไม่ได้สูบเร็วขนาดนั้น แต่ข้อเสียคือดูไม่สวยเท่าไหร่เวลาหยิบออกมาใช้
3. เก็บยาเส้นไว้ในซอง หรือถุงสำหรับใส่ยาเส้น ซองใส่ยาเส้นที่มีขายแยกต่างหากนั้นมีไว้สำหรับให้คนสูบสามารถพกพายาเส้นที่ตัวเองชอบไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก เบากว่าการแบกกระป๋องติดตัว และดูสวยงามกว่าเก็บยาเส้นไว้ในซอง ด้านในของซองเก็บยาเส้นมักมีการบุยาง หรือวัสดุที่ช่วยในการรักษาความชื้น กระเป๋าใส่ยาเส้นแบบนี้จะมีขายแยกเฉพาะสำหรับใส่ยาเส้นอย่างเดี๋ยว หรือที่เห็นบ่อยๆ ก็คือ กระเป๋าใส่ไปป์ที่มีช่องสำหรับใส่ไปป์ อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงมีช่องเก็บยาเส้นโดยเฉพาะ แต่อย่าลืมว่าเวลาหยิบยาก็ต้องเปิดเข้าเปิดออกอยู่ดี ซึ่งมันก็ทำให้อากาศเข้าไปได้ทุกเมื่ออยู่ดี ดังนั้นสิ่งนี้จึงเหมาะกับคนที่ต้องการสูบไปป์นอกบ้าน และต้องการอุปกรณ์จัดเก็บเครื่องมือในการสูบไปป์แบบเป็นสัดเป็นส่วน
4. เก็บยาเส้นไว้ในขวดโหลแก้วสุญญากาศ ดูเป็นสวยงาม เรียบร้อย รักษาความชื้นของตัวยาได้ดี สังเกตง่าย แลดูเป็นมืออาชีพ แต่ถ้าให้พกแบบนี้ไปข้างนอกคงไม่ดีแน่ ดังนั้นคนที่เก็บยาไว้แบบนี้ก็มักเป็นคนที่สูบไปป์อยู่บ้านมากกว่า และอีกหนึ่งเหตุผลที่คนสูบไปป์ชอบเก็บยาลักษณะนี้ก็คือพวกเขาต้องการ AGE (เอจ) หรือ “บ่ม” ใบยาให้มีรสชาติที่ดีขึ้นนั่นเอง

พูดมาถึงตรงนี้ แน่นอนว่าคำถามที่ตามมาก็คือ AGING ใบยา ต้องทำใส่ขวดแก้วเท่านั้นเหรอ? แล้วเอจยาแบบไหนรสชาติจะอร่อยขึ้น?

สาเหตุที่มักจะเห็นบางคนเค้าเก็บยาไว้ในโหลแก้ว ซึ่งหลายคนเรียกมันว่า Mason Jar ก็เพราะว่าฝาของมันเป็นแบบสุญญากาศ และยาที่เก็บไว้ในนั้นจะโดนอากาศก็ต่อเมื่อเปิดฝาออกเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ทำให้เราสามารถเก็บยาไว้ใช้ได้หลายปี โดยไม่แห้งไปซะก่อน

ส่วนอีกหนึ่งเหตุผลก็คือ พวกเขาเจตนาจะบ่มยาเพื่อให้รสชาติพัฒนาขึ้น หอมขึ้น อร่อยขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่ายาเส้นไปป์ทุกแบบจะทำแล้วได้ผล ที่แน่ๆเลยก็คือ ยาไปป์สาย Aromatic แต่งกลิ่นหอมทั้งหลาย มักจะใช้วิธีนี้ไม่ค่อยได้ผลเพราะส่วนผสมหลักๆ ของยาเนพวกนี้คือ Black Cavendish ที่ผ่านขั้นตอนหลายๆ อย่างรวมถึงถูกแต่งเติมรสชาติมาเรียบร้อยแล้ว สรุปคือยาเส้นไปป์แบบอโรมาติกไม่ต้องมาบ่ม มาดองอะไรต่อให้เสียเวลา รสชาติหลังจากที่แกะบรรจุภัณท์ออกมาแล้วสูบคือรสที่ดีที่สุดของมันแล้ว

แล้วยาเส้นแบบไหนที่ทำแล้วได้ผล?

ยาเส้นไปป์ตัวที่ทำแล้วพอจะได้ผลคือยาประเภท English และ Balkan ซึ่งเป็นแบบ non aromatic ไม่แต่งกลิ่น แต่กว่าที่รสชาติจะดีขึ้นต้องใช้เวลา และความเปลี่ยนแปลงมีไม่มากขนาดนั้น ซึ่งประเภทของใบยาที่ “บ่ม” หรือ Aging แล้วได้ผลดีที่สุดคือสาย Straight Virginia เน้นพันธุ์ใบยาเวอร์จิเนีย ที่มักได้ผลที่ดีคุ้มค่ากับการรอคอย หลักพื้นฐานสุดๆของการบ่มยาก็คือ ยาตัวไหนที่มีน้ำตาลในใบยาสูง ตัวนั้นจะทำแล้วได้ผล (ยา Burley มีระดับน้ำตาลที่ 0.2% ยาเตอร์กิช 12% ยาเวอร์จิเนีย 22-30กว่า%) สำหรับเรื่องระยะเวลาการบ่มอันนี้ก็แล้วแต่ อาจจะครึ่งปี 2 ปี หรือ 10 ปีแล้วแต่ความพอใจ ซึ่งข้อได้เปรียบของการเก็บยาเส้นไว้ในโหลแก้วก็ดีกว่าเก็บทั้งกระป๋อง ตรงที่เราสามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของใบยาผ่านโหลแก้วใสนี่ล่ะ แต่ต้องไม่ลืมว่าการเอจยานี้จะสิ้นสุดทันทีเมื่อคุณตัดสินใจเปิดฝานะ!