คนสูบซิการ์ ไม่จำเป็นต้องสูบบุหรี่มาก่อนเสมอไป ส่วนใหญ่คนทั่วไปจะมองว่า การสูบซิการ์นั้นสงวนไว้สำหรับคนรวยเท่านั้น จริงอยู่ที่ราคาซิการ์ในปัจจุบันแพงกว่าราคาบุหรี่ และคนส่วนมากก็รู้จักแค่ว่าซิการ์ต้องเป็นของคิวบาเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ยังมีแหล่งปลูกใบยาสูบ และแหล่งผลิตซิการ์อีกมากมาย และซิการ์มีหลายประเภท มีทั้งราคาถูก ราคาระดับกลาง และราคาแพง ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล คนเราเกิดมามีความแตกต่าง ประสาทรับรสก็ไม่เหมือนกัน กับคำถามที่ว่า ซิการ์มีแบ่งแบบไหนบ้าง ที่จริงจะให้ตอบว่า แบบที่สูบแล้วชอบ กับแบบที่สูบแล้วไม่ชอบก็คงไม่ผิด
ผู้เริ่มต้นอยากลองหัดสูบซิการ์ ที่ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นยังไง จะซื้อซิการ์ที่ไหน ซิการ์ยี่ห้อไหนดี และ ยังไม่รู้ว่าซิการ์มีราคาเท่าไหร่บ้าง ได้เข้าใจ และเริ่มต้นได้อย่างถูกต้องโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองเสียเงินมากมาย กับสิ่งที่เรายังไม่รู้ว่า “ใช่” สำหรับเรารึเปล่า
ก่อนที่จะไปเริ่มต้นหาซิการ์เพื่อลองสูบ อยากให้ทุกคนทำความเข้าใจกันก่อนว่า สูบซิการ์ไม่เหมือนสูบบุหรี่ คนสูบซิการ์จะไม่กลืนควันหรือดึงควันเข้าไปในปอด และเน้นที่การดื่มด่ำกับรสชาติ และกลิ่นหอมของใบยาซิการ์นั้นๆ เป็นหลัก เพราะฉะนั้นซิการ์ 1 มวน บางทีก็ใช้เวลาสูบนานเกือบชั่วโมง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความใหญ่ของมวนซิการ์ด้วย
ขั้นตอนแรกของการสูบซิการ์
ก่อนจะเดินหาร้านซิการ์ ควรทำการบ้านด้วยการหาข้อมูลก่อน ว่าเราพร้อมกับการสูบซิการ์แบบไหน ถ้ามีงบประมาณไม่จำกัด และต้องการซิการ์แบรนด์ดัง มวนใหญ่ สูบเพื่ออยากรู้ความรู้สึก หรือสูบเพื่อเข้าสังคม ก็สามารถเลือกซื้อซิการ์คิวบา เช่น Cohiba, Montecristo, Romeo Y Julieta, Partagas ซึ่งเป็นแบรนด์ดังได้เลย โดยราคาของซิการ์ระดับนี้จะเริ่มต้นที่ประมาณมวนละ 500 บาทขึ้นไปจนถึงมวนละหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับรุ่น ความใหญ่ ของตัวมวนด้วย ซิการ์แบบนี้จะเน้นที่กลิ่นหอมจากใบยาธรรมชาติ เพราะฉะนั้นอย่าถามหากลิ่นหอม จากสินค้าเกรดนี้ แต่ถ้าอยากลองซิการ์แบบ Handmade ในราคาเบาๆ ราคาไม่แพง แนะนำให้ลองมองซิการ์จากฟิลิปปินส์ดูก่อนก็ได้ โดยยี่ห้อที่แนะนำคือ 1898 Independencia และ Antonio Gimenez ที่มีขนาดมวนใหญ่ระดับเดียวกับซิการ์แฮนเมดแบบคิวบา และมีรสชาติที่ใกล้เคียง
แต่ถ้าบอกว่าไม่อยากเริ่มต้นด้วยของราคาแพง เพราะไม่เคยสูบมาก่อน ไม่รู้ว่าจะชอบมั้ย ขอแนะนำให้ลอง Machine Made Cigar หรือซิการ์แบบเครื่องจักร ที่ราคาเริ่มต้นถูกกว่ามาก ตกอยู่ที่ราคามวนละ ไม่ถึง 40 บาทก็มี ที่สำคัญมีให้เลือกทั้งแบบกลิ่นใบยาธรรมชาติ กลิ่นผลไม้ กลิ่นเชอรี่ กลิ่นวานิลลา ช็อกโกแลต อย่างยี่ห้อ Handelsgold ซิการ์มวนเล็กแบบ Café Crème หรือมวนเล็กและมีก้นกรองแบบบุหรี่อย่าง Captain Black ดังนั้นการเลือกซิการ์ที่สำคัญเลยคือ เราต้องถามตัวเองก่อนว่าเราจะสูบเพื่ออะไร สูบเพื่อทดลอง สูบเพื่อเข้าสังคม สูบเพราะชอบกลิ่นหอมที่หลากหลาย อยากสูบเท่ๆ เหมือนในทีวี หรืออยากทดลองสิ่งที่ไม่เคยลองมาก่อน เป็นต้น
ขั้นตอนแรกเราบอกให้เลือกประเภทของซิการ์ก่อน เป็นเพราะเราจะได้รู้ว่าควรไปร้านซิการ์แบบไหนถึงจะเจอสิ่งที่เราต้องการ ร้านซิการ์ที่อยู่ตามโรงแรม และช้อปซิการ์หรูโดยเฉพาะ จะเน้นขายซิการ์จาก คิวบา Dominican หรือซิการ์ราคามวนโต ราคาแพงซะส่วนใหญ่ ถ้าไปถามหาซิการ์กลิ่นหอม ราคาถูก หรือมีรสหวานก็อาจไม่มี สำหรับคนที่ต้องการซิการ์ราคาถูก หรือไม่แพงมาก สามารถหาซื้อได้จากร้านค้าใหญ่ๆ หรือในห้างสรรพสินค้า เช่น The Mall ทุกสาขา บางคนแนะนำว่าถ้าจะสูบซิการ์ ต้องเลือกที่มาจากคิวบาเท่านั้น ในกรณีคนเพิ่งเริ่มสูบยังไม่สามารถแยกออกด้วยซ้ำว่าซิการ์แต่ละแบบ มันแตกต่างกันอย่างไร ก็ควรลองให้ทั่วก่อนตัดสิน ถึงเจอสิ่งที่เรียกว่าเหมาะกับตัวเอง ถ้าคุณคือคนที่มีงบประมาณจำกัด และอยากลองซิการ์ทั้งแบบราคาถูก และ แพง ปะปนกัน สามารถสอบถามได้ที่ THE SESSION สีลม คอมเพล็กซ์
การที่เป็นแบบแฮนเมด หรือซิการ์คิวบามวนใหญ่ๆ ส่วนใหญ่แล้วหัวด้านหนึ่งจะปิด ก่อนสูบต้องทำการตัด หรือเจาะ เพื่อเปิดให้มีลมผ่าน การตัดซิการ์เพื่อเปิดหัวนี้ จะใช้เครื่องมีที่มีลักษณะเหมือนเครื่องประหารในสมัยโบราณ หรือที่เราเรียกว่า กิโยติน จะเป็นแบบ 1 ใบมีด หรือ 2 ใบมีดก็แล้วแต่เลือก ส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นซิการ์มวนใหญ่ จะแนะนำให้ใช้แบบ 2 ใบมีดมากกว่า เนื่องจากประสิทธิภาพในการตัดจะดีกว่า และไม่ทำให้ใบยาแตกด้วย ด้วยการกะระยะตัดให้ห่างจากส่วนหัวประมาณ 3-4 มม. และควรตัดครั้งเดียวให้ขาด
ที่ตัดซิการ์ไม่จำเป็นสำหรับซิการ์แบบ Machine Made ถ้าสังเกตดูให้ดี ที่ส่วนปลายหัวซิการ์ประเภทนี้จะมีรอยตัดมาอยู่แล้ว เราสามารถจุดสูบได้เลย ยกเว้นถ้าจะใช้อีกครั้งก็ตอนสูบไม่หมด แล้วใช้ที่ตัดซิการ์ตัดส่วนปลายที่สูบไปแล้วออก และเก็บซิการ์ส่วนที่ยังเหลืออยู่ไว้สูบในครั้งต่อไป อย่างไรก็ตามแนะนำให้สูบซิการ์ให้หมดภายในครั้งเดียว เพราะการตัดซิการ์เก็บไว้ เมื่อนำมาสูบใหม่จะพบว่า กลิ่นและรสชาติจะไม่หอมเหมือนเดิม ควรสูบซิการ์ที่มีขนาดพอดีกับเวลาที่เราสูบในแต่ละครั้งจึงจะดีที่สุด
ไฟแช็คจุดซิการ์จะมีความแรงมากกว่าไฟแช็คธรรมดา หรือที่เรียกกันว่าไฟแบบ Torch Light หรือ หัวเจ็ท Jet Flame ที่ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง ทั้งนี้เพราะซิการ์จุดติดยากกว่าบุหรี่ และมวนใหญ่กว่า ฉะนั้นการใช้ไฟแบบแรงจ่อเข้าตรงๆ ให้ทั่วปลายซิการ์จะให้ผลดีกว่า บางคนอาจใช้เป็นไม้ขีดไฟแบบยาวก็ได้เช่นกัน สำหรับไฟแช็คแบบน้ำมัน บางคนมองว่ากลิ่นของน้ำมันนั้นจะไปรบกวนกลิ่นธรรมชาติของใบยา ซึ่งในกรณีนี้เราต้องบอกว่าเป็นความชอบส่วนตัวอีกเช่นกัน บางคนมองว่านี่เป็นเรื่องซีเรียส แต่บางคนไม่เห็นว่าสิ่งนี้จะกระทบกับรสชาติของการสูบตรงไหน ฉะนั้นถ้าใครมีไฟแช็คน้ำมันก็ให้ลองจุดกับซิการ์ดู ว่ามันทำให้กลิ่นผิดเพี้ยนไปจริงหรือไม่ คำถามนี้ตัวเราเองต้องเป็นผู้หาคำตอบ แต่วิธีจุดไฟหลักๆ แล้วคือการลนไฟให้ทั่วทุกด้าน ด้วยการหมุนซิการ์ให้คลุมทุกจุด
กันตามตรงการสูบซิการ์น่าจะใช้คำว่า เสพมากกว่า โดยทั่วไปบุหรี่ใช้คำว่าสูบเพราะต้องสูบแบบอัดมวนต่อมวน ในขณะที่ซิการ์จะเว้นระยะเวลาซักพัก แล้วค่อยสูบอีกที เวลาสูบซิการ์หลังจากจุดไฟแล้ว ก็ให้ใช้แรงสูบซิการ์เข้าไปในอุ้งปาก และค่อยๆ พิจารณากลิ่นและความหอมของใบยา ซักครู่จากนั้นค่อยๆ พ่นออก และการที่เราอมควันไว้แบบนั้น หมายถึงว่าเราจะไม่ดึงลงปอด และค่อยๆ ใช้เวลากับรสชาติความหอมแบบเพลิดเพลิน เพราะฉะนั้นการสูบซิการ์ นี่เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ซิการ์แตกต่างจากบุหรี่
“สูบซิการ์ไม่ดึงลงปอด จะสูบไปทำไม?”
เป็นคำถามที่เจอบ่อยมาก ซึ่งจะพบได้เกือบทุกครั้งที่มีการอธิบายถึงวิธีการสูบซิการ์ให้กับผู้ที่สนใจ คนที่ชินกับการสูบบุหรี่เข้าใจว่าการได้รับนิโคตินจะต้องผ่านการ “ซี้ด” ควันให้ลงในปอดเท่านั้น ทั้งที่จริงแล้ว นิโคตินถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทางผิวหนัง และเยื่อเมือกที่อยู่ในจมูก และปาก แต่ร่างกายจะรับได้ช้ากว่าการดึงควันลงปอด และถ้าเรายังเลือกที่จะถึงควันของมวนซิการ์ที่มีขนาดใหญ่ และอัดแน่นไปด้วยใบยาลงไปในปอด เช่นเดียวกันกับการสูบบุหรี่ ทำให้ร่างกายรับไม่ไหว และมีไม่น้อยที่เกิดอาการคลื่นไส้ วิงเวียน อาเจียน หรือรู้สึกมึนหัวไปเลยหลังดึงลงปอดเพียงครั้งเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือใหม่ที่เพิ่งเคยลอง และไม่เชื่อตามคำแนะนำ
หลักการ คำแนะนำ หรือสิ่งที่ได้ยินต่อๆ กันมา เป็นเพียงแค่เครื่องมือเบื้องต้นที่ช่วยให้เราตัดสินใจเลือกซื้อซิการ์เท่านั้น สุดท้ายแล้วคนที่ตัดสินว่าแบบไหนคือซิการ์ที่ดีที่สุด ก็คือตัวของคนสูบเอง ซิการ์สำหรับคนสูบมีแค่ 2 ประเภท หรืออาจจะ 3 ซึ่งก็คือ ซิการ์ที่สูบแล้วชอบ ซิการ์ที่สูบแล้วรู้สึกเฉยๆ กับซิการ์ที่สูบแล้วไม่ชอบ ไม่จำเป็นต้องสนใจว่าใครจะพูดว่าอย่างไร เพราะการสูบซิการ์เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่มีใครตัดสินได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด ทุกอย่างอยู่ที่ตัวของเราเอง