“ซิการ์” ในความเข้าใจของคุณเป็นแบบไหน?

“ซิการ์” ในความเข้าใจของคุณเป็นแบบไหน?

ซิการ์แบบที่เป็นมวนโตๆ อ้วนๆ ใหญ่ๆ เหมือนในหนังเจ้าพ่อ มหาเศรษฐี ชอบสูบกัน?

ถ้าคำตอบของคุณคือ “ใช่” คุณก็เข้าใจถูก แต่นั่นเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งเท่านั้น  ซิการ์ที่มีอยู่บนโลกใบนี้มีมากมายหลายแบบ หลายประเภท หลายขนาด หลายรูปทรง หลายรสชาติ เกินกว่าที่จะสามารถจินตนาการถึง
หลายคนคนมีคำถามว่าเสน่ห์ของซิการ์ที่สามารถมัดใจคนสูบได้อยู่หมัด มันอยู่ตรงไหน โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าอยู่ที่กลิ่น ความหอม ซึ่งเป็นรสเฉพาะตัวของใบยาสูบประเภทนั้นๆ และสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจาก 2 ปัจจัยหลักๆ ซึ่งก็คือจากธรรมชาติ และจากฝีมือมนุษย์

การที่เราปลูกพืชชนิดหนึ่งขึ้นมา เรื่องสภาพ ดิน ฟ้า อากาศ และพื้นที่ปลูกมีผลต่อรสชาติของใบยาโดยตรงแม้จะเป็นเมล็ดพันธุ์ตระกูลเดียวกัน เมื่อถูกนำไปปลูกในพื้นที่ต่างกัน ก็ให้กลิ่นและรสชาติที่แตกต่างกันออกไป และนั่นก็เปรียบเสมือน signature ของใบยาสูบ ที่เป็นจุดขายของแต่ละพื้นที่ ใบยาสูบบางพันธุ์มีกลิ่นเหมือนไม้หรือหญ้า บางพันธุ์กลับมีกลิ่นกาแฟอ่อนๆ บางพันธุ์ก็มีกลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆ หรือกลิ่นผลไม้ซ่อนอยู่ ฯลฯ อย่างที่หลายๆคนอาจจะเคยสังเกตในคำอธิบายผลิตภัณฑ์ว่าใช้ใบยาจากมาลาวี (Malawi) คิวบา (Cuba) หรือ สุมาตรา (Sumatra) เป็นต้น ปัจจัยหลักอีกส่วนที่สำคัญก็คือ การควบคุมรสชาติของใบยาโดยฝีมือมนุษย์ ที่ใช้หลักการด้วยการปรุง หรือบ่มด้วยกรรมวิธีต่างๆ ให้ได้รสชาติตามที่ต้องการ

ซิการ์แบ่งใหญ่ๆได้ 2 ประเภทคือ ซิการ์ที่ทำด้วยเครื่องจักร กับซิการ์แฮนเมด

1.ซิการ์แบบที่ใช้เครื่องจักรทำ (Machine Made Cigar)

ประเภทนี้มีอยู่ทั่วไปหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง มีทางเลือกให้ผู้สูบมากมายไม่ว่าจะเป็นแบบแต่งกลิ่นหอม เช่นกลิ่นวานิลา ช็อกโกแลต หรือผลไม้ต่างๆ หรือกระทั่งแบบไม่แต่งกลิ่นหอม ที่ยังสามารถแตกแขนง ไปได้อีกมากมายด้วยการปรุงยาเส้นในแบบต่างๆ กัน

ซิการ์แบบนี้มีข้อดีหลายๆ อย่าง เช่น ผู้สูบสามารถซื้อสูบได้บ่อยๆ เพราะราคาถูก  (ราคาประมาณเฉลี่ยอยู่ที่ 300 บาท ต่อ 5มวน) ไม่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ (เก็บในกล่อง Humidor หรือ ห้องรักษาอุณหภูมิและความชื้น)  ง่ายต่อการเก็บรักษาเพราะใบยาได้รับการอบแห้งมาประมาณหนึ่งแล้ว จึงทำให้หมดปัญหาเรื่องราได้อย่างหายห่วง แต่ถึงกระนั้นก็ห้ามเก็บไว้ที่ที่ร้อนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดตัวแมลง หรือว่ามอดที่จะมากัดกินมวนซิการ์ของเราได้

ซิการ์ที่ผลิตด้วยเครื่องจักรมีความอ่อน-เข้มหลายระดับมาก มือใหม่หัดสูบจะเริ่มจากซิการ์ประเภทนี้ก็ถือว่าเหมาะสม โดยส่วนใหญ่แล้วฟิลเลอร์ (ซิการ์ที่อยู่ชั้นในสุดของมวน) จะเป็นยาที่ถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วพันด้วยใบยาสูบด้านนอก ซึ่งแบบนี้จะเรียกว่า Short Filler

2. ซิการ์ที่ทำด้วยมือหรือซิการ์แฮดเมด (Hand Made Cigar)

ซิการ์ประเภทนี้จัดอยู่ในกลุ่มประเภทซิการ์แบบพรีเมี่ยม ที่ต้องอาศัยความประณีตทุกขั้นตอนตั้ง เริ่มแต่การปลูก ที่ต้องควบคุมปริมาณน้ำให้เหมาะสม ความสดใหม่ และการคัดเลือก การเก็บใบยาที่จะต้องคัดแต่ใบที่สวยมาผลิตเท่านั้น รวมไปถึงการมวนที่ต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะตัว เพราะสิ่งนี้มีผลต่อการเผาไหม้ที่สม่ำเสมอตลอดมวนของซิการ์ เนื่องด้วยขั้นตอนที่มากมายและซับซ้อนเหล่านี้เอง ที่ทำให้ราคาซิการ์แฮนเมด มีราคาสูง จนหลายๆ คนมักจะนำมาสูบเฉพาะในโอกาสที่พิเศษ

ถึงอย่างนั้น เรื่องของแหล่งผลิตก็มีผลกับราคาของซิการ์เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ราคาซิการ์แฮนเมดที่ผลิตจากฟิลิปินส์หรือนิการากัว ราคาจะอยู่ราวๆ 200-300บาท/มวน ในขณะที่ซิการ์คิวบา มีตั้งแต่ราคา500-10,000 บาท/มวน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดแต่ส่วนใหญ่แล้ว ซิการ์แฮนเมดที่ราคาสูงมักจะใช้ยาทั้งใบมวน (Long Filler)ด้วยความเชื่อที่ว่าเมื่อสูบต่อเนื่องไปซักพักรสชาติจะค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อนมากขึ้น บวกกับทำให้ระยะเวลาในการสูบสูบได้นานขึ้นด้วย การเก็บรักษาก็จำเป็นต้องมีที่เก็บอย่างเหมาะสม ต้องควบคุมทั้งความเย็น และความชื้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้สูบซิการ์ก็มีสิ่งที่ควรพึงระลึกไว้อยู่เสมอว่า เราทุกคนล้วนมีความชอบที่แตกต่าง ไม่ใช่ทุกคนที่สูบซิการ์ราคามวนละหลายพันแล้วจะต้องชอบรสชาติเสมอไป บางคนอาจจะรู้สึกผ่อนคลายกับซิการ์ที่มีกลิ่นหอมแบบที่ใช้เครื่องจักรผลิตก็เป็นได้ สุดท้ายแล้วมันก็คือความพอใจ ไม่ว่าจะถูกหรือแพง ตราบเมื่อเรารู้สึกพอใจก็ถือว่านั่นคือความสุขของการสูบซิการ์แล้ว